Project  Approach  เรียนรู้รอบด้าน ลงมือปฏิบัติ สนุกสนาน

                 “Project  Approachคือการเรียนแบบโครงงาน คุณครูจะพูดถึงเรื่องต่างๆ ที่เด็กเขาอยากจะเรียนรู้ แล้วจะเปิดโอกาสให้โหวตเรื่องที่เด็กเขาอยากจะเรียน เมื่อเลือกเรื่องได้แล้วก็จัดว่าเราจะบูรณาการเรื่องนี้ลงไปในวิชาไหนได้บ้าง เช่นเรื่องกล้วย ก็จะมีกิจกรรมทำกล้วยบวชชี ทำภาพพิมพ์ก้านกล้วย ประดิษฐ์ของเล่นจากใบตอง แต่งเพลงกล้วย เป็นต้น หากเด็กได้ลงมือปฏิบัติจริงๆ ก็จะทำให้เขาเรียนรู้ได้ดี

                   โครงงานเราจะทำเทอมละหนึ่งเรื่อง แล้วพอจบเทอมทางโรงเรียนจะจัดนิทรรศการโครงงานให้ผู้ปกครองมาร่วมกิจกรรมเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองได้เห็นว่าที่โรงเรียนเราสอนอะไรบ้าง ลูกอยู่ที่โรงเรียนทำกิจกรรมอะไรบ้าง อย่างของชั้นอนุบาล3 เวลามีนิทรรศการโครงงานเราจะให้เด็กออกมา   พรีเซนต์ให้ผู้ปกครองฟังว่าเขาเรียนรู้อะไรจากการทำโครงงานบ้าง เป็นการฝึกการกล้าแสดงออกให้เด็กนักเรียนด้วย

กิจกรรมสำหรับเด็กประถม

                “ในส่วนของประถม ทางโรงเรียนใช้หลักการเดียวกัน คือลูกน้อยแจ่มใส ได้วิชา โดยกิจกรรมส่วนใหญ่เราเน้นให้นักเรียนได้ปฏิบัติจริง เช่นเรื่องดนตรี ที่โรงเรียนจะมีวงมโหรี และวงสตริง ให้นักเรียนได้ใช้ทำกิจกรรม ส่วนกิจกรรมทางวิชาการทางโรงเรียนจะจัดให้นักเรียนเสมอ เช่น กิจกรรมReadingShowจะให้เด็กแต่ละชั้น ตั้งแต่ ป.1-ป.6 มาแสดงละคร พูดต่อกันคนละประโยค สองประโยค เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีการประกวดแต่งกลอน เขียนเรียงความ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เนื่องในโอกาสวันพ่อและวันแม่ นอกจากนี้ทางโรงเรียนยังจัดกิจกรรมจิตอาสาให้กับนักเรียน เช่น พานักเรียนไปโรงเรียนสอนคนตาบอด อ่านหนังสือให้เด็กฟัง เป็นการปลูกฝังให้เด็กรู้จักช่วยเหลือผู้อื่น”

เตรียมรับมืออาเซียน

                 “ทางโรงเรียนส่งเสริมการกล้าพูดกับชาวต่างชาติ เราจึงมีครูต่างประเทศอยู่ในโรงเรียน  และจัดให้ทุกวันศุกร์เป็น English Speaking  Dayมีสอนคำศัพท์วันละ 2-3 คำโดยการออกเสียงตามสายหลังเคารพธงชาติ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ทั้งครูและนักเรียนได้พูดภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาจีนนั้นทางโรงเรียนเริ่มจัดสอนในระดับอนุบาลในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเลือกเรียนพิเศษสำหรับเด็กที่อยากจะเรียน แต่สำหรับเด็กประถมทางโรงเรียนจัดให้เรียนทุกคน ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งเลย เพื่อเตรียมรับมือกับ AEC”

                  อาจารย์แสงโสม และอาจารย์มณฑิรา ย้ำว่ากระบวนการ การเรียนรู้ที่ดีต้องเกิดจากการเปิดสมองของเด็ก การเล่นและการลงมือปฏิบัติจริงทำให้เด็กรู้สึกสนุก ไม่เกิดความเครียด และทำให้เด็กสามารถเปิดรับวิชาการต่างๆ ที่คุณครูป้อนให้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เด็กจะต้องรู้สึกสนุกควบคู่ไปกับวิชาการ ดังเช่นคำขวัญของโรงเรียนแห่งนี้ “ลูกน้อยแจ่มใส ได้วิชา”